หลายคนยังคงสงสัยหรืออาจจะข้องใจกับระบบ บล็อกเชน หรือ เทคโนโลยีบล็อกเชน ว่ามันคืออะไร มีไว้เพื่ออะไร มีประโยชน์หรือไม่ ในวันนี้ทาง TOMITECH จะมาบอกเล่าให้เพื่อนๆได้รู้จักกัน

เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)

คือ เทคโนโลยีที่เกิดมาเพื่อเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) เก็บข้อมูลเป็นบล็อก แต่ละบล็อกเชื่อมกันด้วยรหัส ที่เรียกว่า แฮช (Hash) เป็นต่อๆเหมือน โซ่(Chain) ต่อกันไปเรื่อยๆ ทำให้มีความปลอดภัยสูง ยากจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ผู้คนที่เข้ามาใช้ระบบตรงนี้ได้ ไ่ม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง จึงง่ายต่อการทำธุรกรรมไม่ว่าจะโอนเงิน แลกเปลี่ยนซื้อขาย หรือจัดการปัญหาต่างๆ รวดเร็วในการทำธุรกรรม มีต้นทุนต่ำ เสียค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมน้อยกว่าปกติ มีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบย้อยหลังได้ มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้จะปลอมแปลงนั้นทำได้ยาก

ทำไมการ เทรดคริปโต ถึงผ่าน เทคโนโลยีบล็อกเชน

1. ข้อมูลที่ถูกเก็บ หรือส่งไปให้ผู้ใช้งาน จะไม่ถูกแปลเปลี่ยนจากใครคนอื่น ตัวระบบยังมีความทนทานสูง ไม่เสี่ยงต่อการล่ม ไม่เคยเกิดเหตุผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังโปร่งใส

2. ค่าใช้จ่ายที่ราคาถูก รวดเร็วต่อการทำธุรกรรม เนื่องจาก บล็อกเชน เป็นการทำงานผ่านระบบแบบดิจิทัลส่งเหรียญผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจึงใช้เวลาน้อยมาก เมื่อเทียบกับการโอนเงินจริงผ่านทางธนาคารและค่าธรรมเนียมต่ำ

บทบาทด้านอื่นที่นอกจาก คริปโทเคอร์เรนซี ของ บล็อกเชน

การใช้ประโยชน์จาก Blockchain ไม่ได้มีแค่คริปโตฯ ยังมีอุตสากรรมด้านอื่นๆ ที่เริ่มเดินหน้าปรับเข้าสู่โลกของดิจิทัล นำเทคโนโลยีด้านนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจต่างๆ เรียกว่า Smart Contact เข้ามาทำหน้าที่ควบคู่กัน

Smart Contact คือ โปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นบน บล็อกเชน เป็นเครื่องมือเสริมสามารถใชได้ด้านการทำอุสหกรรม แบบไม่ต้องอาศัยตัวกลาง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และรองรับข้อมูลจำนวนมาก ให้ความสะดวก รวดเร็ว จากการทำสัญญาแบบอัตโนมัติ เช่น ธนาคาร ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันไปตามสัญญาในธุรกรรมต่างๆ

ประโยชน์ที่ได้จาก เทคโนโลยี บล็อกเชน

ธนาคารและการเงิน

การให้บริการของธนาคารและสถาบันการเงินนั้นเดิมที จะให้บริการในการทำธุรกรรมตามเวลาที่กำหนด และยังใช้เวลาในการดำเนินขั้นตอนต่างๆนาน ไม่สะดวกต่อผู้ใช้งาน บล็อกเชน จึงเป็นตัวช่วยในการทำธุรกรรม เร็ว ปลอดภัย ใช้เวลาไม่น่าเพียง 10 นาที อีกทั้งการส่งโอนเงินแปกเปลี่ยนกองทุนกับสถาบันอื่นก็ง่าย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างมาก

ด้านสุขภาพ

ผู้ให้บริการประยุกต์ปรับเปลี่ยนใช้ บล็อกเชน เพื่อรักษาข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากเราเปลี่ยนหมอ หรืออยู่ต่างประเทศก็สามารถเลือกดูข้อมูล ทำได้ทุกที่ทั่วมุมโลก และยังสงวนสิทธิ์การเข้าถึงสำหรับผู้ที่มี Private key อีกด้วย

ด้านอสังหาริมทรัพย์

โดยปกติแล้ว เวลาทำการโอนย้ายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จะใช้เวลาดำเนินเรื่องพอสมควร ทั้งติดต่อผู้ที่เกียวข้อง การเก็บข้อมูลรักษาจะอยู่ในส่วนกลาง เกิดความยุ่งยาก เสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย แต่ถ้าหากการเก็บรักษาอยู่บน เทคโนโลยีบล็อกเชน จะช่วยได้อย่างมาก สะดวกขึ้น ลดการเก็บเอกสารกระดาษ สแกนเอก ไว้กับส่วนกลาง อีกทั้งยังสามารถยืนยันความถูกต้องข้อมูลได้ ซึ่งลดการเกิดความผิดพลาดได้น้อยกว่าปกติ

การขนส่งและคลังสินค้า

การใช้ระบบ บล็อกเชน จะช่วยลดปัญการการเน่าเสียหรือสินค้าหายระกว่างขนส่งได้ เมื่อใช้ระบบจะทำให้เราทราบทันทีเลยว่า สินค้าอยู่ตรงไหน วันเดือนปีที่ผลิตสินค้า วันหมดอายุ ลดการเกิดความเสียหายให้กับสินค้าได้ดี

การสมัครงานและสัมภาษณ์

ปัญหากับความไม่โปร่งใสข้อมูล เช่น เรียนจบที่ไหน ผลการเรียนเท่าไหร่ ทำงานอะไรมาบ้าง ปัญหาเหล่านี้จะลดลงไปด้วยระบบ บล็อกเชน ผู้สัมภาษณ์สามารถเรียกดูข้อมูลได้แบบ Realtime ทั้งประหยัดเวลา ลดต้นทุนในการตรวจสอบข้อมูลผู้สมัคร

ข้อดีและข้อจำกัด ของ Blockchain

ข้อดีของ บล็อกเชน

• โปร่งใส ไร้ตัวกลาง


• มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้


• รวดเร็วต่อการทำธุกรมม


• ลดต้นทุน ค่าธรรมเนียม


• ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขข้อมูลบนบล็อกเชนได้

ข้อจำกัดของ บล็อกเชน

• อยู่ในขั้นพัฒนาการขยับขยายระบบ ทำให้การเก็บข้อมูลจำนวนจำกัด


• ถ้า Private key หายไม่มีใครสามารถช่วยได้


• เปลืองพลังงานอย่างมาก เนื่องพลังงานมีความจำเป็นต่อการเก็บรักษาบัญชีแบบเรียลไทม์


• กฏข้อบังคับยังไม่ต่ายตัว แตกต่างกันไปตามแต่ละเครือข่าย

เทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นตัวช่วยที่จัดว่าดีในเรื่องความสะดวกสบาย อีกทั้งยังทันสมัย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่แห่งโลกอนาคต โลกของดิจิทัล แต่ตัวระบบเองยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างเช่นกัน ผู้ใช้งานควรศึกษาให้ถี่ถ้วนและเข้าใจตัวระบบอย่างถ่องแท้ เพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้ใช้งานเอง

Reference :TOMITECH