Tencent ยักษ์ใหญ่ด้าน เทคโนโลยีจากจีนประกาศปิดตัว Huanhe แพลตฟอร์ม ซื้อขาย NFT ของตัวเอง หลังให้บริการได้แค่เพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสร้างกระแสฮือฮาในโลกศิลปะ แต่กลับกลายเป็นพื้นที่สีเทาด้านกฎหมาย ในจีนมาโดยตลอด
โดยทางแพลตฟอร์ม จะไม่มีการออก Token ใหม่ ๆ มาอีก แต่สำหรับตัวแอปพลิเคชั่นจะยังคงอยู่และผู้ที่มี NFT ครอบครองจะยังคงสามารถแสดงผลงาน ดาวน์โหลด หรือส่งต่อ NFT ที่ตนเองมีอยู่ได้ อย่างที่รู้กันว่าในประเทศจีน NFT ถูกควบคุม อย่างหนักหน่วง จึงมีการออกกฎให้ซื้อขายได้ด้วยเงินเฟียตเท่านั้น และไม่สามารถส่งต่อให้ผู้อื่นเพื่อทำกำไรได้
ปัจจุบัน NFT ที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มถูกติดป้าย sold out ทั้งหมด แต่ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าชมนิทรรศการงานศิลปะ แบบ AR ได้อยู่เหมือนเดิม Tencent กล่าวว่า ”การออกจากธุรกิจ NFT ครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของบริษัทเพื่อกลับไปให้ความสำคัญ กับธุรกิจหลักมากกว่า”Tencent กล่าวว่า ”การออกจากธุรกิจ NFT ครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของบริษัทเพื่อกลับไปให้ความสำคัญ กับธุรกิจหลักมากกว่า” Tencent กล่าวว่า ”การออกจากธุรกิจ NFT ครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของบริษัทเพื่อกลับไปให้ความสำคัญ กับธุรกิจหลักมากกว่า” แต่ก็มีข้อสังเกตออกมาว่า ช่วง 1 ปีของการให้บริการ แม้จะมีผู้สนใจซื้อ NFT เป็นจำนวนมากในช่วงแรกๆ แต่ในระยะหลังโดยเฉพาะเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยอดขายกลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แถม NFT ที่เป็นคอลเลคชัน ลิมิเต็ด หลายตัวก็ กลับขายไม่ออกสาเหตุ คือ การความเข้มงวด ของรัฐบาลจีนต่อ NFT และ Cryptocurrency ในปีที่ผ่าน ๆ มา รัฐบาลจีนได้ประกาศแบนการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้สำเร็จ ดังนั้น NFT ในจีนจึงถูกซื้อขายด้วยเงินเฟียตเท่านั้น และไม่สามารถขาย ทำกำไรได้ ถ้าพูดถึงในอนาคตการเติบโตวงการสายนี้ ในประเทศจีนคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเหตุการณ์นี้ จึงแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของวงการ NFT ในประเทศจีน คงไม่ใช่แค่เพียง ในวงการที่สั่นคลอน แต่ยังรวมไปถึงการสนับสนุน ของรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกัน ถือว่าการสนับสนุน จากประเทศก็ สามารถชี้เป็นว่า NFT ในประเทศนั้น จะเป็นยังไงต่อ ซึ่งเราต้อง ตระหนักกันครับว่า ถ้าได้สนับสนุนจากภาครัฐ เราอาจจะเห็น NFT เฟื่องฟู ก็เป็นได้ครับ

Reference: TOMITECH TEROSOFT HAMHAM