Blue Chip Stock หุ้นของบริษัท ที่มีขนาดใหญ่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สถานะทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาว เป็นที่รู้จักกันดีทั้งในหมู่นักลงทุนและคนทั่วไป

คำว่า “บลูชิพ” นั้นมาจากในแวดวง*** หรือวงไพ่โป๊กเกอร์ ซึ่งเป็นการพูดถึงเหรียญสีฟ้าใน***ที่ถือเป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูงสุด หุ้นบลูชิพจะมี Market Capitalization ที่ใหญ่มากๆ ซึ่ง Market Capitalization มันหมายถึง “มูลค่าตลาด” ของทั้งบริษัทว่ามีมูลค่าเท่าใด ซึ่งคิดจากจำนวนหุ้นทั้งหมดคูณด้วยราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ซึ่งการเทรดหุ้นนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับการเล่นพนันอย่างใน***อย่างแน่นอน

หุ้นบลูชิพ (Blue Chip Stock) คือ หุ้นที่เป็นผู้นำของตลาดหุ้นหนึ่ง ๆ หรือหุ้นของบริษัทชั้นนำทั่วโลก โดยกินส่วนแบ่งการตลาดในสัดส่วนที่มาก เป็นหุ้นที่โดดเด่นในคุณสมบัติต่าง ๆ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สถานะทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาว เป็นที่รู้จักกันดีทั้งในหมู่นักลงทุนและคนทั่วไป ทั้งมีความปลอดภัยต่อการลงทุนในระยะยาวและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญของโลก หุ้นบลูชิพที่คุ้นหูคุ้นตาอย่างเช่น หุ้นของ Coca-Cola, IBM และ Boeing เป็นต้น หุ้นประเภทนี้เป็นหุ้นที่ถูกนำไปรวบรวมคิดเป็นดัชนีตลาดที่เรารู้จักกันดีอย่าง S&P 500, TSX-60, FTSE และดัชนีอื่นๆ อีกมากมาย

องค์ประกอบของ หุ้นบลูชิพ มีอะไรบ้าง

• Well-known หรือ เป็นบริษัทที่มหาชนรู้จักกันดี : บริษัทเข้าไปเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในโลก เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน เช่น บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน ยาสีฟัน


• ตลาดที่จดทะเบียน : หุ้นเหล่านี้มักจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญของโลก เช่น ตลาดหุ้นอเมริกา อังกฤษ หรือภูมิภาคยุโรป เพราะตลาดหลักทรัพย์ในประเทศดังกล่าว มีเงื่อนไขในการระดมทุนที่สูงมาก บริษัทต้องมีความน่าเชื่อถือในระดับและมั่นคงมากๆ จึงจะสามารถเข้าไปขอจดทะเบียนเพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวได้


• มูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้น : นอกจากมูลค่าตลาด หรือ Market cap จะใช้บอกขนาดของบริษัทได้แล้ว มันยังสามารถบอกระดับมูลค่าทรัพย์สินต่างๆ ของบริษัทได้อีกด้วย ส่วนใหญ่จะมี Market cap ตั้งแต่ 5 พันล้านเหรียญขึ้นไป


• ความปลอดภัยและความสามารถในการเติบโต : บริษัทชั้นนำจะต้องมีความน่าเชื่อถือ และเติบโตได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มีชื่อเสียงในด้านดี ไม่มีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาการล้มละลายในอนาคตข้างหน้า มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง ระยะยาว สามารถให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนในรูปของเงินปันผลได้สม่ำเสมอ เป็นการการันตีว่าบริษัทจะมีกำไรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต


• เงินปันผล : แม้จะไม่ใช่หุ้นบลูชิพทุกตัวที่จะมีการจ่ายเงินปันผล แต่หุ้นบลูชิพส่วนใหญ่ก็มักจะจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้กับนักลงทุนผู้ถือหุ้น ซึ่งก็เป็นการยืนยันได้ว่ามีประสิทธิภาพและความสามารถที่จะเติบโตต่อเนื่อง โดยไม่ต้องอัดเงินลงทุนเพิ่มเติม แถมยังมีเงินเหลือมาจ่ายผลตอบแทนคืนให้กับผู้ลงทุน
  
  

ดูข้อมูลหุ้นบลูชิพเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Reference: TOMITECH TEROSOFT HAMHAM